Smile ยิ้มสยอง เรื่องราวหลังจากพบกับเหตุการณ์ประหลาดและสะเทือนใจของผู้ป่วย ดร. โรส คอตเตอร์ (โซซี่ เบคอน) เริ่มประสบกับเหตุการณ์ที่น่ากลัว ซึ่งเธอไม่สามารถอธิบายได้ เมื่อความหวาดกลัวอย่างท่วมท้นเริ่มครอบงำชีวิตของเธอ โรสต้องเผชิญหน้ากับอดีตอันน่าหนักใจของเธอเพื่อเอาชีวิตรอดและหลบหนีจากความเป็นจริงใหม่อันน่าสะพรึงกลัวของเธอ
Smile ยิ้มสยอง ยิ้มล้า ยิ้มเหนื่อย ยิ้มน้อย ยิ้มใหญ่
ที่แผนกจิตเวช นักบำบัด โรส คอตเตอร์ ได้พบกับลอร่า วีเวอร์ นักศึกษาระดับปริญญาตรี ซึ่งอธิบายว่าเมื่อไม่นานมานี้เธอได้เห็นศาสตราจารย์ของเธอฆ่าตัวตาย ลอร่าอ้างว่าถูกสิ่งลึกลับที่มองไม่เห็นซึ่งปรากฏตัวในรูปของผู้คนยิ้มแย้มและทำนายการตายของเธอ ทำให้เธอหวาดกลัว เธอเริ่มกรีดร้องและหายใจไม่ออก ทำให้โรสต้องขอความช่วยเหลือ จู่ๆ ลอร่าก็สงบลงและยิ้มอย่างประหลาด จากนั้นก็กรีดคอตัวเองเสียชีวิต ทำให้โรสหวาดกลัว
วันรุ่งขึ้น โรสได้พบกับคนไข้ชื่อคาร์ล ซึ่งยิ้มแบบเดียวกันและบอกเธอว่าเธอจะต้องตาย โรสเรียกพยาบาลมาจับตัวคาร์ล แต่กลับพบว่าคาร์ลหลับไปตลอดเวลา ด้วยความเป็นห่วงสุขภาพจิตของโรส หัวหน้าของเธอ ดร. มอร์แกน เดไซ จึงสั่งให้โรสหยุดงานหนึ่งสัปดาห์ ภาพหลอนของโรสยังคงเกิดขึ้น ทำให้คนรอบข้างเชื่อว่าเธออาจเป็นอันตรายต่อตัวเอง โรสไปพบหมอแมเดลีน นอร์ธคอตต์ นักบำบัดคนเก่าของเธอ ซึ่งแนะนำว่าปัญหาของโรสมีต้นตอมาจากวัยเด็กของเธอ ซึ่งเธอได้เห็นแม่ที่ทำร้ายร่างกายและป่วยทางจิตของเธอเสียชีวิตจากการใช้ยาเกินขนาด
โรสเห็นรถไฟของเล่นและซื้อเป็นของขวัญวันเกิดให้กับหลานชายของเธอ ซึ่งเป็นลูกชายของฮอลลี่ พี่สาวของเธอ ในงานปาร์ตี้ เขาแกะของขวัญของเธอออกและพบศพแมวของโรส ทำให้ทุกคนตกใจกลัว โรสเกิดอาการป่วยทางจิตและเห็นแขกคนหนึ่งยิ้มให้เธออย่างผิดปกติ ทำให้เธอล้มลงไปบนโต๊ะกาแฟกระจกและบาดเจ็บตัวเอง เหตุการณ์นี้ทำให้โรสเชื่อว่าเธอตกเป็นเหยื่อของคำสาป แม้ว่าเทรเวอร์คู่หมั้นของเธอจะเชื่อว่าเธอเป็นบ้าไปแล้วก็ตาม
เมื่อรู้ว่าศาสตราจารย์ของลอร่ายิ้มให้เธอก่อนที่เขาจะเสียชีวิต โรสจึงไปเยี่ยมวิกตอเรีย ภรรยาม่ายของศาสตราจารย์ และได้รู้ว่าเขาก็เคยเห็นการฆ่าตัวตายไม่นานก่อนการตายของเขาเองด้วย โรสขอให้โจเอล แฟนเก่าของเธอซึ่งเป็นนักสืบตำรวจตรวจสอบบันทึกตำรวจเก่า พวกเขาพบกรณีของคนจำนวนมากที่เห็นคนฆ่าตัวตายโดยยิ้มให้พวกเขา ก่อนที่จะทำแบบเดียวกันกับตัวเองภายในหนึ่งสัปดาห์
ชื่อเรื่อง Smile ยิ้มสยอง
ประเภท สยองขวัญ
นำแสดงโดย โซซี่ เบคอน, เจสซี่ ที. อัชเชอร์, ไคล์ กัลเนอร์
กำกับโดย พาร์คเกอร์ ฟินน์
กำหนดฉาย 29 กันยายน 2022
ความยาว 115 นาที
รีวิวหนัง “Smile ยิ้มสยอง
ถือว่าเป็นการส่งสัญญาณความหลอนที่รองรับและต้อนรับการมาของเทศกาลวันปล่อยผี และนี่คือจุดเริ่มต้นอย่างเป็นทางการกับรอยยิ้มที่น่าสยดสยองกับหนังเขย่าขวัญเรื่องล่าสุด ที่จะมาเปลี่ยนมุมมองของผู้ชมต่อรอยยิ้มสง่าไปตลอดกาล นี่คือหนังที่มาพร้อมกับไอเดียและแนวคิดของหนุ่มนักสร้างหนังรุ่นใหม่ไฟแรง ที่พรั่งพรูด้วยลูกเล่นและกิมมิกอันฉวัดเฉวียนที่หยอดกับใส่มาในหนังตลอดทั้งเรื่องนี้
เล่าเรื่องหลังจากที่ผ่านพบเห็นกับอุบัติเหตุสุดประหลาดและสะเทือนใจที่เกิดขึ้นกับผู้ป่วยของตัวเอง ดร.โรส คอตเตอร์ ก็เริ่มพบว่าตัวเองประสบพบกับความน่ากลัวอะไรบางอย่างที่เธอก็อธิบายออกมาเป็นคำพูดไม่ได้ เธอต้องเผชิญหน้ากับอดีตที่หนักอึ้ง พร้อมกับแบกจิตใจของตัวเองหลีกหนีออกมาจากความจริงในปัจจุบันที่่ยิ่งน่าสะพรึงมากกว่า ภายใต้รอยยิ้ม..สยองนั้น
นี่คือผลงานเดบิวต์หนังใหญ่เรื่องแรกของ “พาร์คเกอร์ ฟินน์” นักสร้างหนังหนุ่มเจนใหม่ที่มีประสบการณ์การทำงานหนังสั้นและอยู่เบื้องหลังโปรเจกต์อื่น ๆ มาได้สัก 4-5 ปี บัดนี้เขาก็ได้รับโอกาสยิ่งใหญ่ในการปลุกปั้นหนังเขย่าขวัญจากไอเดียและแนวคิดของตัวเอง ด้วยการหยิบเอากิริยาอันเป็นธรรมชาติของมนุษย์มากลั่นกรองออกมาเป็นหนังสยองขวัญและน่าสะพรึงกลัว
แม้ว่าคอนเซ็ปต์และไอเดียของ จะค่อนข้างดูแล้วเวิร์กก็ตาม แต่เมื่อลองมาสัมผัสเนื้อหาและเนื้อในจากในตัวหนังทั้งเรื่องนั้น ยังพบว่าหนังยังมีช่องโหว่อยู่เต็มไปหมด โดยเฉพาะการใส่ใจเรื่องน้ำหนักของแกนเรื่อง ที่น่าเสียดายที่หนังเกือบจะทำออกมาได้ดีใช้ได้แล้ว แต่น้ำหนักในองค์ประกอบหลักต่าง ๆ ยังค่อยข้างเบาโหวงไปสักหน่อย จึงทำให้แกนความดราม่าและความสยองต่าง ๆ เหมือนยังเล่นได้ไม่สุดทางเสียทีเดียว
การเล่าเรื่องของ ก็ถือว่าเป็นจุดที่บกพร่องไปอย่างน่าเสียดาย เพราะนี่กลายเป็นหนังสยองขวัญที่มีความยาวเกือบ 2 ชั่วโมง แต่น้ำหนักของแกนเรื่องต่าง ๆ ยังไม่สามารถแบกตัวเรื่องไปได้ตลอดทางนัก จึงทำให้หนังให้ความรู้สึกที่ยืดยาวไปสักหน่อย หากทำให้กระชับขึ้นกว่านี้สักหน่อย หั่นออกไปสัก 15 นาที คิดว่าหนังจะสมบูรณ์กว่านี้ได้ยิ่งขึ้น เพราะโทนการเล่าเรื่องที่แสนจะธรรมดาของหนัง พอมาผนวกกับเรื่องราวที่สูตรสำเร็จไปเสียหมด จึงทำให้กลายเป็นหนังสยองที่ยังไม่มีอะไรที่โดดเด่นและธรรมดาเดิม ๆ ไป ภาพยนตร์สยองขวัญ
ต้องยอมรับว่าไอเดียของ ค่อนข้างใช้ได้เลยทีเดียว แต่หนังยังค่อนข้างกระท่อนกระแท่นในส่วนของการเล่าเรื่องไปสักหน่อย ยังไม่สามารถสร้างแรงจูงใจและอารมณ์ร่วมกับคนดูได้ตลอดทาง ช่วงแรก ๆ หนังทำการปูเรื่องค่อนข้างนานไปหน่อย กว่าจะมาเข้าเส้นเรื่องในองก์ต่อไป อารมณ์ของผู้ชมก็เกือบเตลิดไปแล้ว และจุดต่าง ๆ ของหนังก็ใส่เข้ามาตามสูตร แค่ดูไปเรื่อย ๆ ก็จะสามารถจับทางและคาดเดาทิศทางของหนังได้ไม่ยากเท่าไหร่
ปมต่าง ๆ ของ ที่ใส่เข้ามาได้อย่างมีนัยยะ แต่ปรากฏว่าไม่ได้รับการขยี้ได้อย่างถึงกึ๋น เพราะเมื่อมาถึงช่วงท้ายเรื่องที่เกือบจะเป็นองก์ที่สะเปะสะปะและใกล้จะออกทะเล เพราะหนังพยายามมองหาทางลงให้สวยงาม แต่หารู้ไม่ว่าคนดูก็น่าจะคาดเดาถึงบทสรุปกันได้อยู่แล้ว หนังยังค่อนข้างทำบทสรุปต่าง ๆ เอาไว้ได้ไม่ค่อยตรึงตาตรึงใจสักเท่าไหร่ เป็นการคลี่ปมเอาไว้แบบกล้าได้กล้าเสีย ที่ในท้ายที่สุดก็กลายเป็นปมที่คลายได้ไม่ถึงแก่น